Zenith อยู่ในตลาดมานานกว่าสามทศวรรษแล้ว และ Kirchhofer (เคียร์ชโฮฟเฟอร์) คือหนึ่งในตัวแทนจำหน่ายที่สำคัญที่สุดที่ในสวิตเซอร์แลนด์และได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางว่าเป็นหนึ่งในผู้ค้าปลีกนาฬิกาซึ่งมีแบรนด์นาฬิกาให้เลือกมากที่สุดในโลก Zenith ได้จัดทำนาฬิการุ่น Defy Classic สีทองและสีฟ้าพิเศษจำนวนจำกัดสำหรับ Kirchhofer เพียง 88 เรือน โดยเล่นกับหมายเลข 8 ซึ่งมีความหมายมงคลสำหรับลูกค้าชาวจีน ตัวเรือน Defy Classic ขนาด 41 มม. ทำจากไทเทเนียมน้ำหนักเบา แต่แข็งแรง ด้วยการผสมผสานของผิวขัดมันและขัดซาติน ตัวเรือนคลาสลิคของ Defy Classic สะท้อนเส้นรูปทรงเรขาคณิตของ Zenith Defy รุ่นดั้งเดิม เปล่งรัศมีออร่าแห่งอนาคตอย่างไม่มีที่ติ Defy Classic เดินด้วยกลไกอัตโนมัติของ Zenith ที่เรียกว่า Elite หน้าปัดเปลือยอวดความงดงามของเครื่องทุกกลไก รวมถึงกลไกบอกวันที่ ความทันสมัยของ Elite คาลิเบอร์ แบบใหม่ประกอบด้วยเฟืองซิลิโคน และคันโยกที่ให้ความแม่นยำที่ความถี่ 28,800 VpH (4 Hz) เมื่อขึ้นลานเต็ม กลไกอัตโนมัติจะให้พลังงานสำรองขั้นต่ำ 50 ชั่วโมง Defy Classic Kirchhofer Limited Edition มาพร้อมกับตัวเลือกสายหนังจระเข้สีน้ำตาลหรือสีน้ำเงินที่มีแผ่นยางรองด้านหลังสีดำ

เคียร์ชโฮฟเฟอร์ รุ่นพิเศษ ทอนดา 1950 (Kirchhofer Special Edition Tonda 1950) มีให้เลือกสองแบบ หน้าปัดขัดเงาแบบดวงอาทิตย์ที่ไม่เหมือนใคร ทั้งสองแบบมีความสง่างามและความประณีตล้ำสมัย Tonda 1950 ได้มาตรฐานสูงสุดทั้งในด้านความสะดวกสบายและง่ายต่อการอ่านเวลา กลับสู่พื้นฐานของ เครื่องบอกเวลาชั้นสูงด้วยนิยามที่คลาสสิกอย่างแท้จริง มาตรฐานระดับสูงของทุกชิ้นส่วนที่นำมาประกอบนั้นเป็นเอกลักษณ์ของกลไกการผลิต Parmigiani Fleurier ตรวจสอบให้แน่ใจว่าสามารถผลิตได้อย่างมีคุณภาพสูงสุด กลไกTonda 1950 ประกอบขึ้นภายใน บริษัท รวมถึงขีดบอกเวลาบนหน้าปัด Tonda 1950 สะท้อนแก่นแท้ของสไตล์ Parmigiani Fleurier: ด้วย Micro-Rotor กลไก PF701 ที่บางและเหมาะอย่างยิ่งสมกับเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ – ขาตัวเรือนทั้งสี่ มนตามหลักสรีรศาสตร์ Kirchhofer Special Edition เป็นรุ่นคลาสสิกที่บ่งบอกถึงความสำคัญของกาลเวลา Kirchhofer Special Edition มาในตัวเรือนทอง18 กะรัตสีชมพู หน้าปัดสีน้ำตาลไล่ระดับสี ผลิตจำนวนจำกัดเพียง 18 เรือน ลวดลายทำจากทอง18 กะรัตสีชมพู ไมโครโรเตอร์ของกลไกอัตโนมัติเป็นแพลตตินัม 950 นาฬิกามาพร้อมกับสายหนังจระเข้แท้ของHermes และบานพับทอง 18 กะรัตสีชมพู ส่วน Kirchhofer Special Edition รุ่นพิเศษทำจากสเตนเลสสตีล หน้าปัดสีน้ำเงินไล่ระดับ ผลิตจำนวนจำกัด เพียง 28 เรือน

ในปี 1952 เพียงแปดปีหลังจากการก่อตั้ง บริษัทเคียร์ชโฮฟเฟอร์ (Kirchhofer) ซึ่งบริหารโดยครอบครัว รุ่น Navitimer ก็ได้เปิดตัวเป็นครั้งแรกและกลายเป็นนาฬิกาของนักบินที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลก โฉมใหม่ของ Navitimer 1 Automatic 41 Kirchhofer Limited Edition ได้ผสมผสานคุณสมบัติเด่นต่างๆ ของรุ่นนาฬิกาที่มีชื่อเสียงที่สุดของแบรนด์เข้ากับการออกแบบที่ซับซ้อน ความคลาสสิกที่แท้จริงในรูปแบบของตนเอง ขอบตัวเรือนและหน้าปัดนาฬิกาสีมุกแบบวงกลมที่มีชื่อเสียงของ Breitling ขอบตัวเรือนหมุนบอกเวลาไม่ผิดเพี้ยนรวมถึงหน้าปัดเล็กสามวงบนหน้าปัดใหญสที่จัดเรียงอย่างชัดเจนพร้อมตัวเลขอารบิกทำให้ Navitimer Kirchhofer Edition เป็นนาฬิกาที่มีสไตล์เข้าได้กับทุกชุดเครื่องแต่งกาย ตัวเรือนสแตนเลสขนาด 41 มม. ของ Kirchhofer Limited Edition กันน้ำได้ถึง 3 บาร์ (30 เมตร / 100 ฟุต) : แกะสลัก “75th Anniversary Kirchhofer” ครบรอบ 75 ปีบริษัทเคียร์ชโฮฟเฟอร์ บนฝาหลัง เพื่อฉลองวาระครบรอบ 75 ปีของสองบริษัท ดังนั้นรุ่นนี้จึงผลิต 75 เรือน มีจำหน่ายที่ Kirchhofer บางสาขาเท่านั้น

โบม แอนด์ เมอร์ซิเออร์ (Baume & Mercier) เปิดตัวรุ่นพิเศษสี่แบบที่ออกแบบมาเพื่อเคียร์ชโฮฟเฟอร์ (Kirchhofer) โดยเฉพาะ เดินด้วยกลไกอัตโนมัติ เป็นส่วนหนึ่งของคอลเลกชัน Classima ผสานความเชี่ยวชาญของช่างนาฬิกากับการออกแบบเข้าสมัยตลอดกาล สองแบบสำหรับผู้หญิง และสองแบบสำหรับผู้ชาย ตัวเรือนขนาด 31 มม. และ 40 มม. ตามลำดับ ตัวเรือนทองและสตีล หรือสตีลทั้งหมด รุ่นพิเศษเคียร์ชโฮฟเฟอร์และยุงเฟรายอค (Kirchhofer Jungfraujoch exclusive edition) มาพร้อมกับหน้าปัดสีขาวหรือสีเงิน เน้นด้วยเข็มบอกเวลาสีน้ำเงิน หน้าต่างแสดงวันที่ บนตำแหน่ง 3 นาฬิกา บอกตำแหน่งชั่วโมง ด้วยตัวเลขอารบิกสำหรับแบบผู้ชาย สำหรับรุ่นสุภาพสตรีที่ตัวเรือนเป็นทองและสตีล ตำแหน่งบอก ชม จะเปลี่ยนเป็นเพชร 9 เม็ดแทนสัญลักษณ์แห่งนิรันดร์ ทุกรุ่นฝาหลังกระจกคริสตัลแซฟไฟร์ที่ทนต่อรอยขีดข่วน โดยมีโลโก้ Kirchhofer Jungfraujoch เพื่อตอกย้ำความพิเศษของรุ่นนี้ รุ่นพิเศษ Kirchhofer Jungfraujoch มีวางจำหน่ายแล้วที่ร้าน